ทำความเข้าใจวิธีการเทรดกับ Exness ในประเทศไทย
เราจะช่วยให้คุณเริ่มต้นเทรดได้อย่างมั่นใจ ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ
เริ่มต้นกับการเปิดบัญชีกับ Exness
ก่อนอื่นเลย คุณจะต้องสมัครบัญชีกับเรา การสมัครก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่มีขั้นตอนที่ต้องทำตามเพื่อความปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมายของประเทศไทย
ขั้นตอนการลงทะเบียนนั้นง่ายมาก คุณแค่เลือกประเทศไทยเป็นประเทศที่พำนัก สิ่งนี้สำคัญเพราะจะส่งผลต่อวิธีการฝากถอนและข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เหมาะกับคนไทย
สิ่งที่ต้องใช้มีเพียงอีเมลจริงที่คุณใช้งานอยู่ รหัสผ่านที่แข็งแรง มีตัวเลขและสัญลักษณ์ รวมถึงเบอร์โทรที่ขึ้นต้นด้วย +66 (รหัสประเทศไทย)
ขั้นตอน | รายละเอียด |
---|---|
1. กรอกข้อมูลส่วนตัว | ชื่อ, นามสกุล, อีเมล, เบอร์โทร พร้อมเลือกประเทศไทย |
2. สร้างรหัสผ่าน | อย่างน้อย 8 ตัวอักษร มีตัวเลขและสัญลักษณ์ |
3. ยืนยันตัวตน | ส่งเอกสารบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต พร้อมใบแจ้งยอดบิลค่าสาธารณูปโภค |
การยืนยันตัวตนโดยปกติจะเสร็จภายใน 24 ชั่วโมงถ้าเอกสารชัดเจน และเราก็แนะนำให้ถ่ายรูปชัด ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา
แพลตฟอร์มเทรดที่เหมาะกับคนไทย
เราเข้าใจว่าการเลือกใช้แพลตฟอร์มเทรดอาจทำให้คุณสับสนบ้าง แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเรามีตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งมือใหม่และมือโปร
แอป Exness Trader
แอปมือถือที่ออกแบบมาเพื่อการเทรดบนมือถือโดยเฉพาะ ใช้งานง่ายและรวดเร็ว เหมาะกับคนที่ต้องการเทรดทุกที่ทุกเวลา พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ครบถ้วน
MetaTrader 4 (MT4)
แพลตฟอร์มคลาสสิกที่หลายคนคุ้นเคย คุณสามารถใช้ Expert Advisors เพื่อทำระบบเทรดอัตโนมัติได้ด้วย
MetaTrader 5 (MT5)
เวอร์ชันอัพเกรดของ MT4 มีฟีเจอร์ใหม่ ๆ และรองรับสินทรัพย์หลากหลายกว่า แต่ในไทย MT4 ยังได้รับความนิยมมากกว่า
ประเภทบัญชีที่เหมาะกับคุณ
บัญชีของเรามีหลายแบบ เพื่อให้คุณเลือกตามระดับความชำนาญและงบประมาณ
ประเภทบัญชี | เงินฝากขั้นต่ำ | สเปรดเริ่มต้น | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|---|
Standard | 10 ดอลลาร์ | 0.3 pips | มือใหม่ |
Pro | 200 ดอลลาร์ | 0.1 pips | เทรดเดอร์มีประสบการณ์ |
Raw Spread | 200 ดอลลาร์ | 0.0 pips (มีค่าคอมมิชชั่น) | เทรดเดอร์ที่เทรดปริมาณสูง |
ถ้าคุณเพิ่งเริ่ม เราแนะนำ Standard เพื่อทดลองและเรียนรู้โดยไม่ต้องเสี่ยงเยอะ พอชำนาญแล้วค่อยขยับไป Pro หรือ Raw Spread เพื่อประหยัดค่าธรรมเนียม
ฝากและถอนเงินในประเทศไทย
เรื่องฝากถอนกับเราง่ายกว่าที่คิด โดยเฉพาะสำหรับคนไทย เรารองรับช่องทางที่คุณคุ้นเคยและสะดวกสุด ๆ
โอนผ่านธนาคารไทย
Kasikornbank, Bangkok Bank, Krung Thai Bank และ SCB คือธนาคารหลักที่รองรับ การโอนใช้เวลาประมาณ 1-2 วันทำการ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมจากเรา (แต่ธนาคารอาจมีบ้าง)
กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
Skrill, Neteller และ Perfect Money ช่วยให้ฝากเงินเข้าบัญชีได้ทันที ส่วนถอนก็ใช้เวลาน้อยมาก แค่ไม่กี่ชั่วโมง
ช่องทางท้องถิ่นอื่น ๆ
บางครั้งมีวิธีการฝากถอนที่เหมาะกับคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งจะปรากฏในบัญชีส่วนตัวของคุณ ให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนทำรายการ
วิธีการเทรดจริง ๆ บนแพลตฟอร์มของเรา
ตอนนี้ถึงเวลาลงมือแล้วนะ สิ่งแรกที่ต้องทำคือวิเคราะห์ตลาดก่อน ไม่ใช่แค่เดาไปมั่ว ๆ
เครื่องมือของเราให้คุณดูกราฟแบบเรียลไทม์ เลือกช่วงเวลาที่ชอบ ใช้อินดิเคเตอร์ต่าง ๆ อย่าง RSI, MACD หรือแม้แต่ปฏิทินเศรษฐกิจที่ช่วยเตือนคุณล่วงหน้าก่อนข่าวใหญ่
การเปิดออร์เดอร์ครั้งแรก
- เลือกคู่เงินที่ต้องการ เช่น EUR/USD
- ตั้งขนาดล็อตเล็ก ๆ ก่อน (เพื่อบริหารความเสี่ยง)
- ตัดสินใจว่าจะซื้อ (Buy) หรือขาย (Sell) ตามที่วิเคราะห์
- ตั้งค่า Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง
- ตั้ง Take Profit เพื่อปิดกำไรอัตโนมัติ (ถ้าต้องการ)
- กดเปิดคำสั่ง
ประเภทคำสั่ง
- Market Order: เปิดคำสั่งทันทีตามราคาปัจจุบัน
- Pending Order: ตั้งราคาเปิดล่วงหน้าเมื่อราคาถึงจุดที่ต้องการ
- Stop Loss: ปิดคำสั่งเมื่อตลาดวิ่งสวนทางเพื่อจำกัดขาดทุน
- Take Profit: ปิดคำสั่งเมื่อราคาถึงเป้าหมายกำไร
การบริหารความเสี่ยงที่ควรใส่ใจ
จากประสบการณ์ของเรากับลูกค้าไทย หลายคนมักมองข้ามเรื่องนี้ แต่จริง ๆ แล้วนี่แหละคือหัวใจของการอยู่รอดในตลาด
การกำหนดขนาดตำแหน่ง
อย่าเสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนในแต่ละคำสั่ง เช่น ถ้าคุณมี 1,000 ดอลลาร์ ก็ไม่ควรเสี่ยงเกิน 20 ดอลลาร์ต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
การตั้ง Stop Loss
ทุกคำสั่งควรมี Stop Loss เพื่อจำกัดความเสียหาย โดยขนาด Stop Loss ควรพิจารณาจากระดับเทคนิค เช่น แนวรับแนวต้าน ความผันผวนของคู่เงิน และความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ
เลเวอเรจ | ระดับความเสี่ยง | เหมาะกับ |
---|---|---|
1:10 – 1:30 | ต่ำ | เทรดเดอร์เน้นความปลอดภัย |
1:50 – 1:100 | ปานกลาง | เทรดเดอร์ทั่วไป |
1:200 ขึ้นไป | สูง | เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ |
เลเวอเรจสูงกว่าช่วยขยายโอกาสกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงเช่นกัน ดังนั้นควรใช้อย่างระมัดระวัง
ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับเทรดในประเทศไทย
เวลาในไทยคือ GMT+7 ซึ่งเหมาะกับการเทรดฟอเร็กซ์มาก เพราะตลาดใหญ่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงในวันธรรมดา
ช่วงเวลาตลาดหลัก
- เซสชันซิดนีย์: 5:00 น. – 14:00 น.
- เซสชันโตเกียว: 7:00 น. – 16:00 น.
- เซสชันลอนดอน: 14:00 น. – 23:00 น.
- เซสชันนิวยอร์ก: 20:00 น. – 5:00 น. (วันถัดไป)
ช่วงที่ตลาดซ้อนทับกัน เช่น โตเกียว-ลอนดอน หรือ ลอนดอน-นิวยอร์ก จะมีความเคลื่อนไหวของราคาเยอะ และเหมาะกับการเทรดมากขึ้น
ตลาดช่วงสุดสัปดาห์
ฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่จะปิดตั้งแต่วันศุกร์ 23:00 น. ถึงอาทิตย์ 22:00 น. แต่เรามีเครื่องมือและสินทรัพย์บางอย่าง เช่น คริปโต ที่เทรดได้ตลอด 24/7
ฟีเจอร์ขั้นสูงและการสนับสนุนที่เรามีให้
เมื่อคุณเริ่มชำนาญขึ้น บางฟีเจอร์อาจช่วยให้การเทรดของคุณสะดวกและแม่นยำขึ้น
คัดลอกการเทรด (Copy Trading)
ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าจะเลือกเทรดยังไง บริการคัดลอกการเทรดช่วยให้คุณเลียนแบบเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จได้แบบอัตโนมัติ
Expert Advisors (EAs)
สำหรับคนที่ใช้ MT4 หรือ MT5 สามารถตั้งโปรแกรมเทรดอัตโนมัติได้ แต่ต้องดูแลและปรับแต่งอยู่เสมอ เพราะไม่มีระบบไหนทำกำไรได้ตลอดโดยไม่ต้องมีคนควบคุม
โซเชียลเทรดดิ้ง
คุณสามารถติดตามและพูดคุยกับเทรดเดอร์คนอื่น ๆ ในแพลตฟอร์มของเรา เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียและกลยุทธ์
บริการ | รายละเอียด |
---|---|
Copy Trading | เลียนแบบคำสั่งเทรดจากมือโปรแบบเรียลไทม์ |
Expert Advisors | ระบบเทรดอัตโนมัติบน MT4/MT5 |
Social Trading | ชุมชนและฟีดข่าวเทรดเพื่อแชร์ไอเดีย |
❓ FAQ
Exness ถูกกฎหมายในประเทศไทยหรือไม่?
ใช่ครับ เราปฏิบัติตามกฎระเบียบของไทยอย่างเคร่งครัด และมีใบอนุญาตที่ถูกต้อง
เงินฝากขั้นต่ำเท่าไหร่?
เริ่มต้นที่ 10 ดอลลาร์สำหรับบัญชี Standard และสูงขึ้นสำหรับบัญชีอื่น ๆ
การยืนยันบัญชีใช้เวลานานแค่ไหน?
โดยทั่วไปไม่เกิน 24 ชั่วโมง หากเอกสารครบถ้วนและชัดเจน
เทรดได้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ไหม?
ส่วนใหญ่ฟอเร็กซ์จะปิด แต่สินทรัพย์บางตัวอย่างคริปโตเคอเรนซี่ยังเทรดได้ตลอดเวลา
ถ้าเสียเงินเกินยอดในบัญชีจะเกิดอะไรขึ้น?
เรามีระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบ คุณจะไม่เสียเงินเกินที่ฝากเข้ามา