เลือกประเภทบัญชีที่ใช่กับ Exness ในประเทศไทย

เราจะช่วยคุณเข้าใจประเภทบัญชีต่างๆ ที่เหมาะกับสไตล์การเทรดของคุณในตลาดฟอเร็กซ์และ CFD

เข้าใจประเภทบัญชี Exness อย่างง่ายสำหรับคนไทย

ถ้าคุณกำลังมองหา “Account types” ที่เหมาะสมกับตัวเองใน Exness นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีมาก เพราะแต่ละบัญชีที่เรามีจะตอบโจทย์การเทรดที่ต่างกันไป คุณไม่จำเป็นต้องเลือกตั้งแต่ครั้งแรกเลยนะ เพราะคุณสามารถเปิดบัญชีได้หลายประเภทตามที่ต้องการ

จากประสบการณ์ของเรากับลูกค้าในประเทศไทย บัญชี Standard มักจะเป็นจุดเริ่มต้นที่พวกเขาเลือก และเมื่อเวลาผ่านไปก็จะเริ่มขยับไปใช้บัญชีที่เหมาะกับรูปแบบการเทรดมากขึ้น

ประเภทบัญชี เหมาะกับ เลเวอเรจสูงสุด
Standard มือใหม่, เทรดเล็ก 1:2000
Pro เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ 1:2000
Zero เทรดเดอร์ที่เน้นสเปรดต่ำ 1:2000
Raw Spread เทรดเดอร์ที่เน้นความโปร่งใส 1:2000

บัญชี Standard: จุดเริ่มต้นที่เข้าถึงง่าย

เรารู้ว่าการเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์อาจดูซับซ้อน บัญชี Standard ของเราจึงออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและเหมาะกับมือใหม่จริงๆ สเปรดเริ่มต้นที่ 0.3 pip โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่นแอบแฝง

คุณสมบัติเด่นที่ควรรู้

  • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
  • เลเวอเรจสูงสุด 1:2000 แต่ควรใช้อย่างระมัดระวัง
  • เงินฝากขั้นต่ำเพียง $1
  • รองรับแพลตฟอร์ม MT4 และ MT5

ระบบคำสั่งทำงานแบบ Instant Execution ซึ่งหมายความว่าคำสั่งของคุณจะถูกดำเนินการทันทีที่เห็นราคาบนหน้าจอ ไม่มีการล่าช้าหรือรีโควต

บัญชี Pro: สำหรับคนที่อยากเทรดจริงจังขึ้น

เมื่อคุณเริ่มเข้าใจตลาดมากขึ้นและต้องการสเปรดที่แคบลง บัญชี Pro เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะคุณจะจ่ายคอมมิชชั่น $3.5 ต่อหนึ่งล็อตต่อด้าน (รวม $7 ต่อรอบ)

ความแตกต่างหลักๆ ที่ควรเข้าใจ

  • สเปรดเริ่มต้นที่ 0.1 pip
  • ใช้การดำเนินการแบบ Market Execution
  • เหมาะกับเทรดเดอร์ที่เทรดปริมาณมาก

Market Execution หมายความว่าคำสั่งของคุณจะถูกส่งไปยังตลาดจริงและราคาที่ได้อาจแตกต่างจากราคาที่คุณเห็นเล็กน้อย แต่นี่เป็นวิธีที่มืออาชีพใช้กันเพื่อเข้าถึงสภาพคล่องที่ลึกกว่า

บัญชี Zero: เน้นสเปรดที่ต่ำสุดในช่วงเวลาที่เหมาะสม

บัญชีนี้เหมาะกับคนที่มองหาสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pip โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ตลาดลอนดอนและนิวยอร์กเปิดพร้อมกัน (เวลาประมาณ 20.00 น. ถึงเที่ยงคืน ตามเวลาไทย)

โครงสร้างค่าคอมมิชชั่น

ประเภทบัญชี สเปรดเริ่มต้น ค่าคอมมิชชั่น เหมาะสำหรับ
Standard 0.3 pip ไม่มี มือใหม่, เทรดเล็ก
Pro 0.1 pip $3.5 ต่อด้าน เทรดเดอร์ทั่วไป
Zero 0.0 pip $3.5 ต่อด้าน เทรดเดอร์ปริมาณมาก

ค่าคอมมิชชั่นของ Zero กับ Pro เท่ากัน แต่สเปรดของ Zero จะต่ำกว่าในช่วงเวลาที่ตลาดมีสภาพคล่องมากๆ

บัญชี Raw Spread: โปร่งใสที่สุด เห็นตลาดจริงสุด

ถ้าคุณชอบเห็นสเปรดที่สะท้อนสภาพตลาดแบบแท้จริง บัญชี Raw Spread จะตอบโจทย์ เพราะไม่มีการบวกสเปรดเพิ่มจากเราที่เป็นโบรกเกอร์

ความผันผวนของสเปรด

สเปรดจะเปลี่ยนตามสภาพตลาด เช่น ช่วงเวลาที่ตลาดเอเชียสงบ อาจเห็นสเปรด EUR/USD ที่ 0.1-0.2 pip แต่ช่วงข่าวสำคัญอาจขยับสูงถึง 2-3 pip หรือมากกว่า

ค่าคอมมิชชั่นก็อยู่ที่ $3.5 ต่อด้านเช่นเดียวกับ Pro และ Zero

คุณสมบัติ Standard Pro Zero Raw Spread
เงินฝากขั้นต่ำ $1 $200 $500 $200
รูปแบบการดำเนินการ Instant Market Market Market
เลเวอเรจสูงสุด 1:2000 1:2000 1:2000 1:2000
สวอปฟรี มี มี มี มี

บัญชี Cent: เหมาะกับการทดสอบและเริ่มต้นอย่างปลอดภัย

เราเข้าใจว่าคุณอาจอยากลองเทรดด้วยเงินจริงแต่ไม่อยากเสี่ยงเยอะ บัญชี Cent คือคำตอบ เพราะจะเทรดเป็นหน่วยเซนต์ แปลว่าขนาดล็อตจะเล็กลง 100 เท่า

ประโยชน์ของบัญชี Cent

  • เงินฝากขั้นต่ำต่ำสุดที่ $0.01
  • เลเวอเรจสูงสุด 1:2000 เหมือนบัญชีหลัก
  • เหมาะสำหรับทดสอบกลยุทธ์และ EAs ในสภาพตลาดจริง

จากประสบการณ์ของผู้ใช้ในไทย บัญชี Cent ช่วยลดแรงกดดันทางจิตใจเวลาทดสอบกลยุทธ์ใหม่ๆ ได้มากกว่าดีมโอดี

วิธีเปิดบัญชีที่เหมาะกับคุณใน Exness

ไม่ว่าสไตล์การเทรดของคุณจะเป็นแบบไหน ขั้นตอนเปิดบัญชีกับเราก็เหมือนกันหมด และหลังจากสร้างบัญชีหลักและผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว คุณก็จะเลือกประเภทบัญชีที่อยากใช้ได้เลย

ขั้นตอนเปิดบัญชีอย่างง่าย

  1. สมัครสมาชิกด้วยอีเมล รหัสผ่าน และเลือกประเทศไทยเป็นประเทศ
  2. ยืนยันตัวตนด้วยเอกสารราชการไทย เช่น บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง
  3. เข้าสู่ Personal Area
  4. คลิก “เปิดบัญชี” แล้วเลือกประเภทบัญชีที่ต้องการ
  5. เลือกใช้แพลตฟอร์ม MT4 หรือ MT5
  6. ตั้งค่าเลเวอเรจและสกุลเงินบัญชี

การเลือกแพลตฟอร์มควรพิจารณาว่าคุณใช้ระบบอัตโนมัติ (EA) แบบไหน MT4 มีเครื่องมือและ EA เยอะกว่า ในขณะที่ MT5 รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ และประมวลผลเร็วขึ้น

การจัดการและการบริหารหลายบัญชีพร้อมกัน

ที่ Exness คุณไม่ต้องจำกัดตัวเองไว้แค่บัญชีเดียว คุณสามารถเปิดหลายบัญชีในประเภทต่างๆ ได้ภายใต้บัญชีหลักเดียวกัน

กลยุทธ์การใช้หลายบัญชี

  • ใช้บัญชี Standard สำหรับเทรดแบบระยะยาว
  • ใช้บัญชี Pro หรือ Zero สำหรับเทรดวันหรือสเกลปิ้ง
  • ใช้บัญชี Cent สำหรับทดสอบกลยุทธ์ใหม่หรือ EA
  • เปิดบัญชีทั้ง MT4 และ MT5 เพื่อใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ของแต่ละแพลตฟอร์ม

การโยกย้ายเงินระหว่างบัญชีทำได้ง่ายผ่าน Personal Area โดยไม่มีค่าธรรมเนียมและไม่มีความล่าช้าเลย ซึ่งช่วยให้คุณบริหารความเสี่ยงและโอกาสได้ดีขึ้น

ฟีเจอร์ Standard Pro Zero Raw Spread
เงินฝากขั้นต่ำ $1 $200 $500 $200
สเปรดเริ่มต้น 0.3 pips 0.1 pips 0.0 pips แปรผันตามตลาด
ค่าคอมมิชชั่น ไม่มี $3.5 ต่อด้าน $3.5 ต่อด้าน $3.5 ต่อด้าน
Execution Instant Market Market Market
รองรับ MT4/MT5 ใช่ ใช่ ใช่ ใช่

❓ FAQ

ผมสามารถเปลี่ยนประเภทบัญชีหลังจากเปิดแล้วได้ไหม?

ไม่สามารถเปลี่ยนประเภทบัญชีที่เปิดไว้แล้วได้ แต่คุณสามารถเปิดบัญชีใหม่ในประเภทอื่นได้ตลอดเวลาโดยไม่มีข้อจำกัด

บัญชีไหนเหมาะกับมือใหม่ที่สุด?

บัญชี Standard จะเหมาะที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะไม่มีค่าคอมมิชชั่นและมีเงินฝากขั้นต่ำต่ำ

สามารถใช้เลเวอเรจสูงสุด 1:2000 กับทุกบัญชีได้ไหม?

ได้ค่ะ แต่บางครั้งเลเวอเรจที่แท้จริงอาจถูกปรับตามประสบการณ์และยอดเงินในบัญชีของคุณ

เปิดบัญชี MT4 และ MT5 พร้อมกันได้หรือไม่?

เปิดได้ทั้งสองแพลตฟอร์มและทุกประเภทบัญชี เพื่อให้คุณเลือกใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละรูปแบบการเทรด

คนไทยมีข้อจำกัดอะไรบ้างในการเปิดบัญชีกับ Exness?

ไม่มีข้อจำกัดพิเศษสำหรับคนไทยเลย คุณสามารถใช้วิธีฝากเงินและถอนเงินที่เหมาะสมกับประเทศไทยได้อย่างสะดวก

ช่องทางฝากเงิน รองรับในไทย ขั้นต่ำ
โอนผ่านธนาคารในประเทศ ใช่ ตามบัญชีที่เลือก
บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, Mastercard) ใช่ ตามบัญชีที่เลือก
อีวอลเล็ต (Skrill, Neteller) ใช่ ตามบัญชีที่เลือก
Perfect Money ใช่ ตามบัญชีที่เลือก
คริปโตเคอร์เรนซี ใช่ ตามบัญชีที่เลือก

การบริหารความเสี่ยงในแต่ละประเภทบัญชี

เลเวอเรจสูงถึง 1:2000 ฟังดูดี แต่ก็ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะกับบัญชีที่ใช้ Market Execution อย่าง Pro, Zero และ Raw Spread เพราะความผันผวนในช่วงเวลาข่าวสำคัญอาจทำให้เกิดการสลิปเพจ (slippage)

การจัดการขนาดล็อต

สำหรับบัญชีที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่น เช่น Standard คุณอาจเน้นการคำนวณความเสี่ยงจากสเปรด ส่วนบัญชีที่มีค่าคอมมิชชั่นต้องรวมค่าใช้จ่ายนี้เข้าไปในแผนการเทรดด้วย เช่น หากคุณเสี่ยง 2% ของทุนในแต่ละเทรด อย่าลืมเผื่อค่าคอมมิชชั่นเพื่อไม่ให้เกินงบ